ดอกสารภี ดอกสร้อยพี สารภี เกษรสารภี Flos Mammeae Siamensis Ochrocarpos siamensis T. Anderson เกสรสารภี
ดอกสารภี ดอกแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mammea siamensis (T.Anderson) Kosterm. วงศ์ Calophyllaceae
ดอกแห้งหรือชิ้นส่วนของดอกแห้ง รูปร่างไม่แน่นอน ดอกแห้งสมบูรณ์ สีน้ำตาล มีทั้งดอกเพศผู้, ดอกเพศเมีย ,และ ดอกสมบูรณ์เพศ เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2.3 cm. ก้านดอกเรียว ยาว 0.8-1.8 cm. มีกลีบรวม 6 กลีบ ทรงกลีบมนและโค้งเป็นกระทุ้ง เรียงเป็น 2 ชั้นชั้นนอกมี 2 กลีบ โคนเชื่อมติดกัน ยาว 1.5-6 mm. ชั้นในมี 4 กลีบ รูปขอบขนาน ยาว 5-7 mm. เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก เกสรเพศเมีย มีรังไข่เหนือวงกลีบ รูปป้อม ก้านเกสรเพศเมีย ปลายแยกเป็น 3 แฉก กลิ่นหอม รสขมฝาด
สารภีมีองค์ประกอบเคมีหลายชนิด เช่น อะเมนโทกลาโรน (amentoglarone), แคมพืสเตอรอล (campesterol), โอโครคาร์พัสโพรแอนโทไซยานิดิน (ochrocarpus proanthocyanidin), ไวทีขิน (vitexin)
สารภีมีรสขม หอมเย็น สรรพคุณแก้โลหิตพิการ แก้ไข้มีพิษร้อน เจริญอาหาร บำรุงหัวใจ ชูกำลัง แก้ลม วิงเวียนหน้ามืดตาลาย
ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยพรีคลินิกพบว่า สารสกัดสารภีมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา
ตำรายาโบราณไทยบางขนานเข้าเครื่องยา เรียก "เกษรสารภี” ปัจจุบันเขียนเป็น “เกสรสารภี” แพทย์แผนไทยใช้เฉพาะเกสรเพศผู้ เพราะว่ามีรสหอมเย็น สรรพคุณบำรุงครรภ์ รักษา แก้ไข้ ทำให้ชุ่มชื่นใจ แต่ปัจจุบันแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่อนุโลมให้ใช้ทั้งดอก